เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับมังกรจีน
"มังกร" เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน แม้ว่ามังกรจะมีการกล่าวถึง ว่าเป็นสัตว์เทพในนิยายและตำนานของหลากหลายชาติ ทั้งทางเอเซียและยุโรป แต่มังกรจีนก็นับว่ามีตำนานที่ยาวนานและมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไปจากมังกร ของทางตะวันตกอย่างเห็นได้ชัดเจน
ตามคำบอกเล่าแต่โบราณแล้ว "มังกร" ในความเชื่อของชาวจีน มักได้รับการกล่าวขานในแง่ของความเป็นมิตรมากกว่าความร้ายกาจ และถูกยกให้เป็น สัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุขและความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง มังกรในความเชื่อของจีนสามารถพบได้ในแม่น้ำและทะเลสาบ ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางสายฝน ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างกฎแห่งความใจบุญ และเป็นสิ่งที่เสริมสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่นให้แก่กษัตริย์ อย่างในสมัยราชวงศ์ชิงกษัตริย์หรือฮ่องเต้จะต้องประทับบนบัลลังก์มังกร เดินทางโดยเรือมังกร เสวยอาหารบนโต๊ะมังกร และบรรทมบนเตียงมังกร ของใช้ต่างๆรวมถึงเสื้อผ้าก็จะตัดเย็บด้วยผ้าที่ประดับด้วยลวดลายมังกร โดยที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถตัดเย็บหรือใช้ของที่มีลายมังกรได้โดยเด็ดขาด และมังกรของจักรพรรดินั้นจะพิเศษกว่ามังกรโดยทั่วไป นั่นคือมันจะต้องมี 5 เล็บ ลักษณะเฉพาะของมังกรจีน ตามพจนานุกรมจีน "มังกร" มีความหมายว่า
สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีลักษณะหัวคล้ายหัวอูฐ มีเขาคล้ายเขากวาง ดวงตาคล้ายกับดวงตาของกระต่ายป่า หูคล้ายหูวัว ปีกคล้ายนกอินทรี มีลำคอยาวคล้ายงู ช่วงท้องมี ลักษณะคล้ายกบหรือหอยกาบ และเกล็ดเหมือนของปลาคาร์พ รูปร่างคล้ายกับปลาตัวใหญ่ เท้าคล้ายกับเท้าเสือ เสียงร้องคล้ายเสียงตีฆ้อง เมื่อหายใจลมหายใจของมันมีลักณะคล้ายเมฆ ซึ่งบางครั้งก็ออกมาเป็นฝน บางครั้งก็เป็นเปลวไฟ
มังกรจีนมีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่ขากรรไกรบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนของสิงโตอยู่บนคอ ,คาง และข้อศอก มีเกล็ด 117 แผ่น แบ่งออกเป็นหยินและหยาง โดย 81 แผ่นเป็นหยางมีความดี 36 แผ่นเป็นหยินมีความชั่ว เขามีสันหลังทอดยาวไปตามหลังและหางเป็นหนามยาวและสั้นสลับกัน มีโหนกอยู่บนหัวไว้สำหรับบินเรียกว่า เชด เม่อ (chih muh) แต่ถ้าเขาไม่มีโหนกนี้ มังกรก็จะกำคทาเล็กๆที่เรียกว่า โพ เชน (po-shan) ในการบินแทน
สีของมังกรจีน
มีหลายสี ตั้งแต่แกมเขียวจนถึงทองหรือบางแหล่งก็ว่ามังกรจีนมีสีน้ำเงิน ,ดำ ,ขาว ,แดง ,เขียว หรือเหลือง มังกรจีนในตำนานมีอิทฤทธิ สามารถทำตัวเองให้ใหญ่เท่ากับจักรวาล หรือให้เล็กเท่ากับหนอนไหม นอกจากนี้ยังมีนิสัยเมตตากรุณา ,เป็นมิตร ,ทะเยอทะยาน และมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้ มังกรจีนยังฉลาด ,มีปัญญามาก ,มีความเด็ดขาดและมีพลัง จึงถูกยกย่องให้เป็นที่ปรึกษาของผู้นำ
ชนิดของมังกรจีน
คนจีนก็แทนลักษณะเฉพาะของมังกร 9 อย่าง ตามลักษณะของมังกรที่แตกต่างกันดังนี้
ชาวจีนมีตำนานกล่าวว่า มังกรเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้าอึ่งตี่หรือหวงตี้ โดยทรงมีพระราชประสงค์สร้างมังกร เพื่อให้เป็นเครื่องหมายประจำชาติ ด้วยการนำเอาสัญลักษณ์ของกลุ่มชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ภายในประเทศจีนขณะนั้นมาผสมผสานกัน
ความเชื่อที่เกี่ยวกับมังกร
มีตำนานกล่าวว่ามังกรเป็นสัตว์อมตะและยังมีอิทธิฤทธิ์มาก เนื่องจากมังกรมีลูกแก้ววิเศษอยู่ในปาก ทำให้สามารถเหาะเหิรเดินอากาศได้หรือจะเดินดิน-ดำน้ำก็ได้ สามารถล่องหนหายตัวแปลงกายให้เล็ก ใหญ่ สั้นยาวก็ได้ ชาวจีนจึงยกย่องให้มังกรเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ทั้งยังเป็นพาหนะของเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วย ธรรมชาติของมังกรเป็นสัตว์ดุร้ายแต่ก็สามารถจะบันดาลประโยชน์สุข ให้บังเกิดแก่มวลมนุษย์ได้เช่นกัน เพราะมังกรสามารถทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆบันดาลให้เกิดฝน-ลม-ไฟ ช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้าย ดังตำนานของชาวจีนที่เล่าต่อกันมาว่า เมืองจีนในช่วงฤดูหนาวบังเกิดความแห้งแล้ง มีสาเหตุมาจากเป็นช่วงเวลาที่มังกรหลับ แต่พอมังกรตื่นขึ้นมาจะนำพาเอาน้ำมาด้วยอย่างมากมายจนเกิดอุทกภัย สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแผ่นดิน จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนหมู่มากนี้เอง ทำให้เจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์ต้องลงโทษให้มังกรต้อง เข้าไปจำศีลภาวนาชดใช้กรรมอยู่ภายในถ้ำถึง 3,000 ปี จนมังกรบังเกิดบารมีจนกลายเป็นสัตว์ชั้นเทพ สามารถเหาะขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ได้ ทั้งยังต้องทำหน้าที่เฝ้าดูแลลูกแก้ววิเศษของเจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์อีกด้วย เราจึงมักเห็นรูปวาดของมังกรจีนมีลูกแก้วอยู่ในมือ
การเชิดมังกร
ตำนานการเชิดมังกรมีที่มาดังนี้ ตำนานเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่ง มังกรเกิดมีอาการปวดและคันที่เอวตลอดเวลารักษาด้วยวิธีการใดก็ไม่หาย จึงจำเป็นต้องแปลงกายเป็นมนุษย์เพื่อหาหมอที่เก่งกาจวิชาการแพทย์มาช่วย รักษา มังกรเข้ารับการรักษากับแพทย์หลายคนก็ไม่หาย จนได้ไปพบกับหมอท่านหนึ่งที่สามารถล่วงรู้ได้ว่า แท้จริงผู้ที่มาขอรับการรักษานั้นมิใช่มนุษย์ธรรมดา จึงสั่งให้มังกรคืนร่างเดิมเป็นมังกรเพื่อหมอจะได้ตรวจอาการป่วยที่แท้จริง ซึ่งหลังจากการตรวจ หมอได้พบตะขาบตัวหนึ่งซ่อนอยู่ที่ใต้เกล็ดมังกร จึงจับตะขาบออกมาแล้วใส่ยาตรงที่ถูกตะขาบกัดให้ทำให้มังกรหายป่วย มังกรจึงอนุญาตให้มนุษย์สามารถทำหุ่นมังกรออกแห่ได้ปีละครั้ง ในยามใดที่หุ่นมังกรปรากฏฝนก็จะตกลงมา ทั้งขจัดสิ่งที่ชั่วร้ายให้หมดสิ้นไปส่งผลให้เกิดประเพณีแห่มังกรนับแต่นั้น เป็นต้นมา
"มังกร" เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน แม้ว่ามังกรจะมีการกล่าวถึง ว่าเป็นสัตว์เทพในนิยายและตำนานของหลากหลายชาติ ทั้งทางเอเซียและยุโรป แต่มังกรจีนก็นับว่ามีตำนานที่ยาวนานและมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไปจากมังกร ของทางตะวันตกอย่างเห็นได้ชัดเจน
ตามคำบอกเล่าแต่โบราณแล้ว "มังกร" ในความเชื่อของชาวจีน มักได้รับการกล่าวขานในแง่ของความเป็นมิตรมากกว่าความร้ายกาจ และถูกยกให้เป็น สัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุขและความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง มังกรในความเชื่อของจีนสามารถพบได้ในแม่น้ำและทะเลสาบ ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางสายฝน ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างกฎแห่งความใจบุญ และเป็นสิ่งที่เสริมสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่นให้แก่กษัตริย์ อย่างในสมัยราชวงศ์ชิงกษัตริย์หรือฮ่องเต้จะต้องประทับบนบัลลังก์มังกร เดินทางโดยเรือมังกร เสวยอาหารบนโต๊ะมังกร และบรรทมบนเตียงมังกร ของใช้ต่างๆรวมถึงเสื้อผ้าก็จะตัดเย็บด้วยผ้าที่ประดับด้วยลวดลายมังกร โดยที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถตัดเย็บหรือใช้ของที่มีลายมังกรได้โดยเด็ดขาด และมังกรของจักรพรรดินั้นจะพิเศษกว่ามังกรโดยทั่วไป นั่นคือมันจะต้องมี 5 เล็บ ลักษณะเฉพาะของมังกรจีน ตามพจนานุกรมจีน "มังกร" มีความหมายว่า
สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีลักษณะหัวคล้ายหัวอูฐ มีเขาคล้ายเขากวาง ดวงตาคล้ายกับดวงตาของกระต่ายป่า หูคล้ายหูวัว ปีกคล้ายนกอินทรี มีลำคอยาวคล้ายงู ช่วงท้องมี ลักษณะคล้ายกบหรือหอยกาบ และเกล็ดเหมือนของปลาคาร์พ รูปร่างคล้ายกับปลาตัวใหญ่ เท้าคล้ายกับเท้าเสือ เสียงร้องคล้ายเสียงตีฆ้อง เมื่อหายใจลมหายใจของมันมีลักณะคล้ายเมฆ ซึ่งบางครั้งก็ออกมาเป็นฝน บางครั้งก็เป็นเปลวไฟ
มังกรจีนมีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่ขากรรไกรบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนของสิงโตอยู่บนคอ ,คาง และข้อศอก มีเกล็ด 117 แผ่น แบ่งออกเป็นหยินและหยาง โดย 81 แผ่นเป็นหยางมีความดี 36 แผ่นเป็นหยินมีความชั่ว เขามีสันหลังทอดยาวไปตามหลังและหางเป็นหนามยาวและสั้นสลับกัน มีโหนกอยู่บนหัวไว้สำหรับบินเรียกว่า เชด เม่อ (chih muh) แต่ถ้าเขาไม่มีโหนกนี้ มังกรก็จะกำคทาเล็กๆที่เรียกว่า โพ เชน (po-shan) ในการบินแทน
สีของมังกรจีน
มีหลายสี ตั้งแต่แกมเขียวจนถึงทองหรือบางแหล่งก็ว่ามังกรจีนมีสีน้ำเงิน ,ดำ ,ขาว ,แดง ,เขียว หรือเหลือง มังกรจีนในตำนานมีอิทฤทธิ สามารถทำตัวเองให้ใหญ่เท่ากับจักรวาล หรือให้เล็กเท่ากับหนอนไหม นอกจากนี้ยังมีนิสัยเมตตากรุณา ,เป็นมิตร ,ทะเยอทะยาน และมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้ มังกรจีนยังฉลาด ,มีปัญญามาก ,มีความเด็ดขาดและมีพลัง จึงถูกยกย่องให้เป็นที่ปรึกษาของผู้นำ
ชนิดของมังกรจีน
คนจีนก็แทนลักษณะเฉพาะของมังกร 9 อย่าง ตามลักษณะของมังกรที่แตกต่างกันดังนี้
- พิว โหล (pu lao) ถูกสลักบนยอดของระฆังและฆ้องเพราะว่าเขามีนิสัยชอบส่งเสียงร้องดังเมื่อถูกโจมตี
- ไชยู (chiu) อยู่บนที่หมุนของซอตั้งแต่มังกรส่วนมากชอบดนตรี
- ไพ ไซ (pi his) ถูกสลักที่ส่วนบนของโต๊ะหินเนื่องจากความรักของมังกรที่มีต่อวรรณคดี
- พา ไซ อะ (pa hsai) พบได้ที่ฐานของอนุสาวรีย์หินในฐานะที่มังกรสามารถรับน้ำหนักมากได้
- เชโอะ เฟ่ง (chao feng) วางอยู่ที่ชายคาของวัดในฐานะที่มังกรตื่นตัวต่ออันตรายเสมอ
- เช่ย (chih) ปรากฏบนคานของสะพานตั้งแต่มังกรชอบน้ำ
- ซ่วง หนี่ (Suan ni) ถูกสลักบนบัลลังก์ของพระพุทธรูปในถานะที่มังกรชอบพักผ่อน
- เย่ สึ (Yai tzu) ถูกสลักบนด้ามดาบ ตั้งแต่มังกรถูกรู้ว่ามีความสามารถที่จะฆ่าได้
- ไพ ฮั่น (pi han) ถูกสลักบนประตูคุก เพราะมีมังกรที่ชอบการทะเลาะ และการสร้างปัญหา
ชาวจีนมีตำนานกล่าวว่า มังกรเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้าอึ่งตี่หรือหวงตี้ โดยทรงมีพระราชประสงค์สร้างมังกร เพื่อให้เป็นเครื่องหมายประจำชาติ ด้วยการนำเอาสัญลักษณ์ของกลุ่มชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ภายในประเทศจีนขณะนั้นมาผสมผสานกัน
ความเชื่อที่เกี่ยวกับมังกร
มีตำนานกล่าวว่ามังกรเป็นสัตว์อมตะและยังมีอิทธิฤทธิ์มาก เนื่องจากมังกรมีลูกแก้ววิเศษอยู่ในปาก ทำให้สามารถเหาะเหิรเดินอากาศได้หรือจะเดินดิน-ดำน้ำก็ได้ สามารถล่องหนหายตัวแปลงกายให้เล็ก ใหญ่ สั้นยาวก็ได้ ชาวจีนจึงยกย่องให้มังกรเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ทั้งยังเป็นพาหนะของเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วย ธรรมชาติของมังกรเป็นสัตว์ดุร้ายแต่ก็สามารถจะบันดาลประโยชน์สุข ให้บังเกิดแก่มวลมนุษย์ได้เช่นกัน เพราะมังกรสามารถทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆบันดาลให้เกิดฝน-ลม-ไฟ ช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้าย ดังตำนานของชาวจีนที่เล่าต่อกันมาว่า เมืองจีนในช่วงฤดูหนาวบังเกิดความแห้งแล้ง มีสาเหตุมาจากเป็นช่วงเวลาที่มังกรหลับ แต่พอมังกรตื่นขึ้นมาจะนำพาเอาน้ำมาด้วยอย่างมากมายจนเกิดอุทกภัย สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแผ่นดิน จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนหมู่มากนี้เอง ทำให้เจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์ต้องลงโทษให้มังกรต้อง เข้าไปจำศีลภาวนาชดใช้กรรมอยู่ภายในถ้ำถึง 3,000 ปี จนมังกรบังเกิดบารมีจนกลายเป็นสัตว์ชั้นเทพ สามารถเหาะขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ได้ ทั้งยังต้องทำหน้าที่เฝ้าดูแลลูกแก้ววิเศษของเจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์อีกด้วย เราจึงมักเห็นรูปวาดของมังกรจีนมีลูกแก้วอยู่ในมือ
การเชิดมังกร
ตำนานการเชิดมังกรมีที่มาดังนี้ ตำนานเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่ง มังกรเกิดมีอาการปวดและคันที่เอวตลอดเวลารักษาด้วยวิธีการใดก็ไม่หาย จึงจำเป็นต้องแปลงกายเป็นมนุษย์เพื่อหาหมอที่เก่งกาจวิชาการแพทย์มาช่วย รักษา มังกรเข้ารับการรักษากับแพทย์หลายคนก็ไม่หาย จนได้ไปพบกับหมอท่านหนึ่งที่สามารถล่วงรู้ได้ว่า แท้จริงผู้ที่มาขอรับการรักษานั้นมิใช่มนุษย์ธรรมดา จึงสั่งให้มังกรคืนร่างเดิมเป็นมังกรเพื่อหมอจะได้ตรวจอาการป่วยที่แท้จริง ซึ่งหลังจากการตรวจ หมอได้พบตะขาบตัวหนึ่งซ่อนอยู่ที่ใต้เกล็ดมังกร จึงจับตะขาบออกมาแล้วใส่ยาตรงที่ถูกตะขาบกัดให้ทำให้มังกรหายป่วย มังกรจึงอนุญาตให้มนุษย์สามารถทำหุ่นมังกรออกแห่ได้ปีละครั้ง ในยามใดที่หุ่นมังกรปรากฏฝนก็จะตกลงมา ทั้งขจัดสิ่งที่ชั่วร้ายให้หมดสิ้นไปส่งผลให้เกิดประเพณีแห่มังกรนับแต่นั้น เป็นต้นมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ผู้เชิดสิงโต โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาเชิดสิงโต ควรมีความรู้เกี่ยวกับกติกาเป็นอย่างดี
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น